TCP Session กับ UDP Session คืออะไร

TCP Session กับ UDP Session: ความแตกต่างและคุณสมบัติ

TCP Session (Transmission Control Protocol)

TCP เป็นโปรโตคอลชั้นขนานที่ 4 ในโมเดล OSI และใช้สำหรับการจัดการการเชื่อมต่อแบบที่มีการเชื่อมต่อคงที่ระหว่างอุปกรณ์สองเครื่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้าง TCP session หรือการเชื่อมต่อแบบใช้พาหะ (connection-oriented)

คุณสมบัติหลักของ TCP Session

• การเชื่อมต่อคงที่: ในการสร้าง TCP session, มีขั้นตอนการสร้างและยุติการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการส่งและรับข้อมูลในลำดับที่ถูกต้อง
• การรับรองการส่งข้อมูล: TCP ให้การรับรองการส่งข้อมูลและการรับข้อมูล โดยใช้การตรวจสอบหลายเลขและการส่งสัญญาณยืนยัน (acknowledgment) ระหว่างอุปกรณ์
• การจัดการข้อผิดพลาด: TCP มีการจัดการข้อผิดพลาดในการส่งข้อมูล เช่น การหายของข้อมูลหรือการส่งข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และจะพยายามแก้ไขให้ถูกต้อง

UDP Session (User Datagram Protocol)

UDP เป็นโปรโตคอลชั้นขนานที่ 4 ในโมเดล OSI แต่เป็นโปรโตคอลแบบไม่มีการเชื่อมต่อ (connectionless) ซึ่งไม่มีการสร้าง session จากก่อให้เกิด UDP session

คุณสมบัติหลักของ UDP Session

• ไม่มีการเชื่อมต่อ: UDP ไม่จำเป็นต้องสร้างการเชื่อมต่อหรือ session ก่อน การส่งข้อมูล
• ไม่มีการรับรองการส่งข้อมูล: UDP ไม่มีการตรวจสอบหลายเลขหรือการส่งสัญญาณยืนยัน การส่งข้อมูลจะเป็นแบบ "fire and forget" ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลสูญหายได้
• การส่งข้อมูลแบบเร็ว: เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบและการรับรองข้อมูล เครือข่าย UDP มีความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงกว่า TCP

การเลือกใช้งาน

• TCP: ใช้สำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการการสื่อสารที่เสถียรและไม่อนุญาตให้ข้อมูลสูญหาย เช่น การส่งอีเมล การเรียกดูเว็บเพจ และการโอนไฟล์
• UDP: ใช้สำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและไม่จำเป็นต้องรับรองการส่งข้อมูล เช่น การสตรีมวิดีโอ การสื่อสารเกมออนไลน์ และการค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่าย

สรุป

• TCP Session ให้การเชื่อมต่อคงที่และการรับรองการส่งข้อมูล มีการจัดการข้อผิดพลาดในการส่งข้อมูล
• UDP Session เป็นการส่งข้อมูลแบบไม่มีการเชื่อมต่อ ไม่มีการรับรองการส่งข้อมูล และมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูง