Logo
การย้ายเว็บโฮสติ้ง: ขั้นตอนและข้อควรระวัง

Articles / Server Category

การย้ายเว็บโฮสติ้ง: ขั้นตอนและข้อควรระวัง

การย้ายเว็บโฮสติ้ง: ขั้นตอนและข้อควรระวัง

Published on June 9, 2024

การย้ายเว็บโฮสติ้งเป็นขั้นตอนที่หลายคนอาจกังวลเพราะเกี่ยวข้องกับการย้ายข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ ของเว็บไซต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่ ซึ่งหากทำไม่ถูกต้องอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญได้ บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนการย้ายเว็บโฮสติ้งอย่างละเอียดและเสนอข้อควรระวังเพื่อให้การย้ายเว็บโฮสติ้งเป็นไปอย่างราบรื่น

การวางแผนและเตรียมตัว

ก่อนที่จะเริ่มต้นการย้ายเว็บโฮสติ้ง ควรทำการวางแผนและเตรียมตัวอย่างละเอียด:

  1. เลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งใหม่: ตรวจสอบและเปรียบเทียบผู้ให้บริการโฮสติ้งใหม่เพื่อหาบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของเว็บไซต์ของคุณ

  2. ตรวจสอบข้อกำหนดและข้อตกลง: ตรวจสอบข้อตกลงการใช้งานของผู้ให้บริการโฮสติ้งปัจจุบันและผู้ให้บริการใหม่ เพื่อเข้าใจถึงเงื่อนไขการย้ายข้อมูล

สำรองข้อมูลเว็บไซต์

การสำรองข้อมูลเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดที่ไม่ควรละเลย:

  1. สำรองไฟล์เว็บไซต์: ดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมดของเว็บไซต์จากเซิร์ฟเวอร์เก่ามาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

  2. สำรองฐานข้อมูล: สำรองข้อมูลฐานข้อมูลทั้งหมดที่เว็บไซต์ใช้งาน โดยปกติจะใช้เครื่องมือ phpMyAdmin หรือเครื่องมือจัดการฐานข้อมูลที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งมีให้

ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่

เตรียมเซิร์ฟเวอร์ใหม่ให้พร้อมสำหรับการโอนย้ายข้อมูล:

  1. อัปโหลดไฟล์เว็บไซต์: อัปโหลดไฟล์เว็บไซต์ทั้งหมดไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่ผ่านทาง FTP หรือ File Manager ที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งใหม่มีให้

  2. นำเข้าฐานข้อมูล: นำเข้าฐานข้อมูลที่สำรองไว้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่ โดยใช้ phpMyAdmin หรือเครื่องมือจัดการฐานข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้ให้บริการใหม่มีให้

  3. ตั้งค่าการเชื่อมต่อฐานข้อมูล: แก้ไขไฟล์การตั้งค่าของเว็บไซต์ให้เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลใหม่ เช่น แก้ไขไฟล์ wp-config.php สำหรับเว็บไซต์ WordPress

ทดสอบเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ใหม่

หลังจากที่ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ใหม่เสร็จสิ้น ควรทำการทดสอบเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์ใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้ถูกต้อง:

  1. ทดสอบการทำงานของเว็บไซต์: ตรวจสอบหน้าเว็บทั้งหมดว่ามีการแสดงผลถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาด

  2. ทดสอบฟังก์ชันการทำงาน: ตรวจสอบฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ เช่น การส่งฟอร์ม การสมัครสมาชิก และการทำธุรกรรมออนไลน์

เปลี่ยน DNS ของโดเมน

หลังจากที่ทดสอบและมั่นใจว่าเว็บไซต์ทำงานได้ดีบนเซิร์ฟเวอร์ใหม่แล้ว ควรทำการเปลี่ยน DNS ของโดเมนเพื่อชี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่:

  1. เข้าถึงตัวจัดการโดเมน: เข้าสู่ระบบตัวจัดการโดเมนที่คุณใช้บริการอยู่ เช่น GoDaddy, Namecheap หรือผู้ให้บริการโดเมนอื่น ๆ

  2. แก้ไขการตั้งค่า DNS: เปลี่ยนแปลงค่า Nameservers ให้ชี้ไปยัง Nameservers ของผู้ให้บริการโฮสติ้งใหม่

  3. รอการเผยแพร่ DNS: การเปลี่ยน DNS อาจใช้เวลาระหว่าง 24-48 ชั่วโมงเพื่อเผยแพร่ทั่วโลก (DNS Propagation)

ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหลังการย้าย

หลังจากที่ DNS ได้รับการเผยแพร่แล้ว ควรตรวจสอบเว็บไซต์อีกครั้งและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น:

  1. ตรวจสอบการเข้าชม: ตรวจสอบว่าเว็บไซต์สามารถเข้าชมได้ตามปกติจากทุกที่

  2. แก้ไขลิงก์เสีย: ตรวจสอบและแก้ไขลิงก์ที่อาจเสียหายหรือไม่ถูกต้องหลังการย้าย

ข้อควรระวังในการย้ายเว็บโฮสติ้ง

  1. สำรองข้อมูลอย่างสมบูรณ์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดได้รับการสำรองอย่างสมบูรณ์ก่อนทำการย้าย

  2. เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหา: ควรเตรียมแผนสำรองและมีทีมงานที่พร้อมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการย้าย

  3. แจ้งลูกค้าหรือผู้ใช้งาน: หากเว็บไซต์ของคุณมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ควรแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการย้ายโฮสติ้งและอาจมีการหยุดให้บริการชั่วคราว

  4. ตรวจสอบบริการเสริม: ตรวจสอบบริการเสริมที่เว็บไซต์ของคุณใช้งาน เช่น อีเมล ระบบสำรองข้อมูล หรือ CDN ว่ามีการตั้งค่าใหม่ให้ถูกต้อง

สรุป

การย้ายเว็บโฮสติ้งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้การวางแผนและความระมัดระวังอย่างมาก แต่หากทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องและเตรียมตัวอย่างละเอียด การย้ายเว็บโฮสติ้งสามารถทำได้อย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา การสำรองข้อมูล ทดสอบเว็บไซต์ และการเปลี่ยน DNS อย่างถูกต้องเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างต่อเนื่องและไม่มีปัญหาหลังการย้าย

Logo

100/280 Soi 17, Delight Village, Bang Khun Thian - Chaitalay, Phanthai Norasing, Samut Sakhon 74000


Copyright © 2024 DriteStudio All Rights Reserved.

🕺 💅 🤫
Chat with us.